พิษณุโลก เปิดโครงการ “สืบสานงานศิลป์ถิ่นสองแคว” เสริมสร้างโอกาสเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “สืบสานงานศิลป์ถิ่นสองแคว” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2568 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นอย่างรอบด้าน

ในการนี้ มี นางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ประธานและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ แขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนเด็ก เยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายเชาวฤทธิ์ ฉายะกูล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้นโยบาย “เด็กพิษณุโลก ฝันให้ไกล ไปให้ถึง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีแห่งการเรียนรู้และการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา อารมณ์ สังคม และการสื่อสารผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ดนตรี และวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นการปลูกฝังคุณธรรม ความเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรม และร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าทางจิตใจและสังคม

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดภาพวาดระบายสี การประกวดการแสดงนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ และการประกวดวงดนตรีสากล การจัดแสดงนิทรรศการศิลปะจากศิลปินระดับชาติ กว่า 20 ท่าน ณ เรือนไม้ขุนพิเรนทรเทพ รวมถึงนิทรรศการจากสถานศึกษาหลายแห่งในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมรับชมภาพยนตร์สั้นรางวัลชนะเลิศเรื่อง “เส้นทางแห่งศรัทธา เมืองพิษณุโลก ความรัก ความหวัง ความฝัน” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

ในการกล่าวเปิดงาน นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้แสดงความชื่นชมต่อความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดโครงการที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เยาวชน และย้ำถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนในฐานะกำลังสำคัญของชาติ ที่ควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเหมาะสม พร้อมแสดงความหวังว่าโครงการ “สืบสานงานศิลป์ถิ่นสองแคว” จะประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

สำหรับโครงการครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ประกอบด้วย เด็ก เยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตื่นตัวในการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของชุมชนอย่างกว้างขวาง