พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และถวายพระพุทธธรรมจักร องค์ที่ ๑๕๒ ณ วัดไทยชุมพลฯ

วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๘.๑๙ น. ณ ลานพระศรีมหาโพธิ์ วัดไทยชุมพล ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ ๓ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และถวายพระพุทธธรรมจักร องค์ที่ ๑๕๒ โดยนายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ร่วมเป็นเกียรติ มีพระเทพวชิรเวที เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการนี้ พลตรี สิรภพฐ์ คำบุญรัตน์ พร้อมคณะเจ้าภาพ พระเถรานุเถระ พันเอกหญิง สุชาดา แจ่มสุวรรณ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองทัพภาคที่ ๓ ทีมธรรมจักรบุญวัฒนา หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พุทธศาสนิกชนและผู้มีเกียรติร่วมในพิธี

โดยคณะสงฆ์และเจ้าภาพขึ้นกระเช้าเพื่อถวายพระอุณาโลมติดพระนลาฏ พระพุทธธรรมจักรฯ จากนั้นนำแผ่นดวงโภคทรัพย์และวัตถุมงคลไปบรรจุไว้ในฐานบัว ทำพิธีเชิญพระพุทธธรรมจักรฯ ขึ้นประดิษฐานยังแท่นประทับ แล้วถวายพวงมาลัยดอกดาวเรืองที่องค์พระพุทธธรรมจักรฯ จากนั้น คณะสงฆ์ คณะเจ้าภาพและพุทธศาสนิกชนตั้งขบวนกระทำทักษิณาวรรตรอบบริเวณที่กำหนด จำนวน ๓ รอบ แม่ทัพภาคที่ ๓ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย คณะเจ้าภาพ คณะสงฆ์ ขึ้นกระเช้าเพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระเกศโมลี บรรจุบนพระเศียรของพระพุทธธรรมจักรฯ พระสงฆ์ในปะรำพิธีสวดชยันโต ต่อจากนั้นร่วมกันสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร ร่วมกันกล่าวถวายพระพุทธธรรมจักรองค์ที่ ๑๕๒ พระสงฆ์รับ และพระครูสุเมธพัฒโนทัย เจ้าอาวาสวัดไทยชุมพล เจ้าคณะอำเภอเมืองสุโขทัย กล่าวสัมโมทนียกถา ประธานในพิธีและผู้มีเกียรติถวายปัจจัยไทยธรรม กรวดน้ำและรับพร

พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และถวายพระพุทธธรรมจักร องค์ที่ ๑๕๒ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนา ขนาดหน้าตัก ๓ เมตร พร้อมฐานบัว และปัญจวัคคีย์ แกะสลักจากหินทราย น้ำหนักรวมทั้งสิ้น ๑๓ ตัน (๓๓,๐๐๐ กิโลกรัม) ประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชรบนพระแท่น พระหัตถ์อยู่ในท่าแสดงธรรม ด้านบนมีพระรัศมีแผ่เป็นวงกลม ปรากฏเป็นรูปเทวดา ๒ องค์ กำลังโปรยดอกไม้บูชาพระพุทธองค์ ตรงกลางฐานองค์พระพุทธรูปแกะสลักเป็นวงล้อธรรมจักรอยู่บนแท่น โดยมีปัญจวัคคีย์นั่งคุกเข่าพนมมืออยู่เบื้องหน้า ดังนั้น พระพุทธธรรมจักรนี้จึงมีครบองค์พระรัตนตรัย ทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์


วัตถุประสงค์ของพิธีดังกล่าว เพื่อเป็นถาวรวัตถุสำหรับสักการะบูชาน้อมรำลึกถึงพระรัตนตรัย และเป็นสิริมงคลแก่พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ประกาศถึงความมีอยู่ของพระพุทธศาสนา ณ สถานที่แห่งนี้ยาวนานไปนับร้อยปีพันปี
